โครงการสลากดิจิทัล คือ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านระบบแอป “เป๋าตัง” ส่วน โครงการสลาก 80 บาท คือ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จุดจำหน่ายโดย ตัวแทนจำหน่ายที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละเขต/อำเภอ และชำระเงินค่าสลากผ่านแอป “ถุงเงิน” หรือ แอป “เป๋าตัง” เท่านั้น
เป้าหมายของโครงการ"สลาก 80" จะต้องมีร้านจำนวน 1,000 จุดทั่วประเทศ จากจำนวนอำเภอ/เขตทั่วประเทศ ที่มีอยู่ 878 อำเภอ/เขต หรือ อย่างน้อยต้องมีร้าน "สลาก 80" อำเภอ/เขตละ 1 จุด ซึ่งหากพื้นที่ใด มีขนาดใหญ่ สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาให้มี ร้าน "สลาก80" มากกว่า 1 จุด
จะเริ่มจำหน่ายวันแรก วันที่ 2 มิ.ย.65
เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกับธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะใช้แอปพลิเคชันของภาครัฐ
การจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม จะทำให้ผู้ซื้อ สามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท และมีสลากให้เลือกซื้อเลขได้มากขึ้น มีช่องทางที่สะดวกและเชื่อถือได้ เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันของภาครัฐที่มีความปลอดภัย สำหรับสลากที่ซื้อ ก็มีการบันทึกข้อมูลไว้ แสดงสิทธิในตัวสลาก ไม่ต้องกังวลหากสลากหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก เนื่องจากสลากฉบับจริงนั้น จะถูกจัดเก็บไว้ที่สำนักงานสลากฯ เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงกับชุดข้อมูลสลากฯ ในแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากฯ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันตามวิถีดิจิทัลยุคใหม่ ลดความเสี่ยงในการสัมผัสจับเงินสดและตัวสลากตามวิถีใหม่ด้วย
ตัวอย่างการใช้งาน สลากดิจิทัล บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"
- ผู้ซื้อ-ขายสลากฯ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- ชำระเงินค่าสลากฯ ผ่านระบบรับชำระเงินในแพลตฟอร์มเท่านั้น ไม่รับเงินสด
- เมื่อผู้ซื้อสลากฯ ถูกรางวัล สามารถมารับเงินรางวัลด้วยตนเองได้ที่สำนักงานสลากฯ หรือจะขอรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินของธนาคารกรุงไทยก็ได้ โดยจะมีค่าธรรมเนียมร้อยละ 1
- https://www.naewna.com/local/650303
- https://www.posttoday.com/finance-stock/news/67415
- https://www.komchadluek.net/hot-social/501671
